วันจันทร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2556
อย่าเล่นทุกตา!
วันนี้ผมได้มีโอกาสย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง โดยการนั่งเล่นเกมส์เศรษฐี ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านมานานหลายปีแล้ว แต่กลับรู้สึกว่า ความสนุกนั้นมีมากกว่าตอนที่เล่นเมื่อครั้งเป็นเด็ก อาจจะเป็นเพราะว่าเราเข้าใจเป้าหมายของเกมส์มากขึ้น มุ่งมั่น และคิดหาวิธีที่จะชนะ อย่างเข้มข้นมากขึ้น
ระหว่างที่เล่นไปนั้น ผมมีข้อสังเกตและข้อคิดดังต่อไปนี้ครับ
1. กติกาเรื่องของการจำนอง ที่เขียนไว้ที่กล่อง ตอนเด็กๆ ไม่เคยใช้เลย เพราะไม่เข้าใจ! ซึ่งตอนนี้เมื่อเข้าใจแล้ว พบว่าเป็นเครื่องมือในการสร้างความมั่งคั่ง หรือเอาตัวรอดได้เป็นอย่างดี
2. เริ่มต้นของเกมส์ เหมือนจะยุติธรรมให้เงินเท่ากัน โฉนดเท่ากัน แต่! ต้องพึ่งพาดวงพอสมควร เนื่องจาก ถ้าได้โฉนดที่ดินถูกๆ ทั้ง สามใบ เลยก็เรียกได้ว่า เสียเปรียบแต่ต้นเกมส์
3. เราไม่สามารถรู้อนาคตได้เลยว่าเราจะเดินไปลงที่ช่องไหน ต้องพึ่งดวงจากการทอยลูกเต๋า แต่สิ่งที่เรารู้และควบคุมได้ คือจำนวนเงินในมือ ความเสี่ยงที่เรารับได้ และเมื่อตกที่ช่องพื้นที่ใหม่ๆ ที่ยังไม่มีคนจับจอง เราก็ยังตัดสินใจเรื่องของความคุ้มค่าในการที่จะซื้อ บ้าน อีก 1 หลัง หรือถ้าครบ 4 หลังแล้วจะเปลี่ยนเป็นโรงแรมเลย จะคุ้มหรือไม่
ซึ่งถ้าเราไม่พร้อมที่จะลงทุน เราก็เลือกที่จะไม่ใช้สิทธิ์ นี้ก็ได้ ชีวิตเรา ในปัจจุบันเราเป็นคนตัดสินใจ 100% และไม่ควรคาดหวังกับอนาคต
อีกเกมส์นึงวันนี้ที่ผมได้มีโอกาสเล่นผ่าน facebook ในวันหยุดนี้ก็คือ poker
ในตอนแรกๆ นั้น poker ในความคิดของผมตอนแรกๆ นั้น ดูยาก ใช้จิตวิทยาสูง ต้อง บลัฟ คนนู้น เกทับ คนนี้ ท่าทางจะต้องเป็นคนโกงๆ ถึงจะเล่นชนะ แต่เมื่อเล่นไป กลับพบว่าเป็นเกมส์ที่ง่ายมากที่จะชนะ โดยการยึดหลักง่ายๆ อยู่ 2 ข้อ
1. ถ้าไพ่ในมือตัวเองไม่ดี หมอบลูกเดียว
2. ถ้าไพ่ในมือตัวเองดี แต่มีการเกทับ กันมาสูงๆ ทำให้ต้นทุนเราสูง ก็ควรจะต้องหมอบ
ถ้าเราไม่มันส์ในอารมณ์ หรือมั่นใจไพ่ในมือมากเกินไป หรือ บ้าเกตามเค้าไปมากๆ หรือแทงหมดหน้าตัก ผมเชือ่ว่าถ้ายึดหลัก 2 ข้อนี้ ไม่มีวันเจ๊งครับ
สิ่งที่ทำให้แตกต่างกันก็คือ เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ไพ่แบบไหนในมือที่เรียกว่าดี และ เงินจำนวนเท่าไหร่ ที่เราถือว่าต้นทุนสูง ซึ่งอันนี้ต้องหาความรู้ และหาประสบการณ์กันเอาเอง
จาก 2 เกมส์ด้านบนที่เล่นมานั้น โดยเฉพาะ Poker จะเห็นว่า ในทุกๆ ทางเลือกที่เข้ามาให้ต้องตัดสินใจว่าจะเดินทางซ้าย ทางขวา หรือตรงกลางนั้น เรามีตัวเลือกพิเศษเสมอ นั้นคือ การอยู่เฉยๆ
การตัดสินใจทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง โดยที่ไม่ไตร่ตรองให้ดี ถี่ถ้วน หรือคาดการณ์ ให้แน่ชัดก่อนนั้น ถือว่าเป็นการกระทำที่ เสี่ยง และอาจจะทำให้แพ้ในเกมส์ที่เรากำลังเล่นอยู่ได้
ในเกมส์เศรษฐี ถ้าคุณลงทุน ในสิ่งที่ไม่คุ้มค่า ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า คุณอาจจะโชคร้ายเปิดไพ่พิเศษที่สั่งให้ต้องจ่ายเงิน และพบว่าคุณไม่มีจ่าย
Poker เมื่อคุณ เล่นทุกตา เกทุกตา อาจจะพบว่า เงินหน้าตักคุณจะหมดลงเรื่อยๆ และเมื่อถึงตาที่ไพ่คุณดี อาจจะพบว่าไม่มีเงินไปสู้กับคู่แข่ง
ในการเล่นหุ้นก็เช่นเดียวกัน คุณไม่จำเป็นต้องซื้อขายทุกวัน ไม่จำเป็นต้องซื้อหุ้นทุกครั้งเมื่อหุ้นลง และไม่จำเป็นต้องขายทุกครั้งที่หุ้นขึ้น
การถอยห่างออกมาจากตลาด เพื่อมองภาพรวมให้ชัดๆ จนมั่นใจ เมื่อตลาดบอกทิศทางที่ชัดเจน แล้วเราค่อยเข้าไปลงทุน น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า กับสภาพตลาดที่ไม่ชัดเจนในช่วงนี้ ที่ยังไม่รู้ว่าการปรับฐานครั้งนี้ คือขาลง หรือปรับตัวเมื่อขึ้นต่อกันแน่
สุดท้ายผมขอทิ้งท้ายบทความนี้ด้วยประโยคว่า ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับตลาดหุ้น เพราะโอกาสมีอยู่ทุกวันครับ
ปล. ขอบคุณภาพประกอบจาก เวบ wikipedia.org ครับ
ปล. ขอบคุณภาพประกอบจาก เวบ wikipedia.org ครับ